**บล็อคนี้มีคนเข้ามาอ่านเยอะขึ้นจากการที่ MUIC รับสมัคร Special Round 2020 แต่เตือนก่อนว่า Test Version นี้เป็น Version 2018 หรือ Old Version นะคะ ตอนนี้มี New Version ที่เพิ่งปล่อยมาตอน July 2019 เพราะฉะนั้นระบบการให้คะแนนจะไม่เหมือนกันนะคะ**
✨ Updated Dec 2021: ตอนนี้มี่ไปสอบ Ver. 2021 มาให้แล้วนะคะ สำหรับใครที่มีเกณฑ์จะใช้คะแนน DET ไปอ่านบล็อคนี้กันได้เลยค่ะ มี่ไปสอบมาแล้วได้ overall 130/160 แต่ละพาร์ทไม่ต่ำกว่า 125 ค่ะ ^^ ใครสนใจจะเข้า MUIC ด้วย regular track จากการสอบ Duolingo English Test ก็ไปอ่าน Ver. 2021 เลยเพราะมีแถมข้อมูลเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้น้อง ๆ ที่จะยื่นเข้า MUIC ด้วยนะคะ 😄
👉 ไปจิ้มลิงก์อ่านกันได้เลยที่นี่นะคะ: DET ver. 2021 by Mie หรือ https://www.askmie-dyshamasixth.com/post/duolingo-english-test-ver-2021-by-mie-dyasha
สวัสดีค่ะทุกคน 🤩
มี่คิดถึงทุกคนมากๆเลยค่ะ ก่อนอื่น... "บล็อคนี้คือจ่ายเงินเต็มจำนวนนะคะ ไม่มีสปอนเซอร์ใดๆทั้งสิ้น" วันนี้ก็กลับมาเจอกันกับการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดย... "Duolingo English Test" หรือย่อคือ DET นั่นเองค่ะ หลายคนอาจจะไม่คุ้นกับชื่อนี้ (แต่คงคุ้นเคยกับแอพพลิเคชันเรียนภาษาต่างประเทศฟรีๆ ทั้งภาษาอังกฤษ, ภาษาสเปน, ภาษาฝรั่งเศสและภาษาอื่นๆมากมาย) เพราะว่าแทบไม่มีมหาลัยไทยภาคอินเตอร์ที่ไหนรับเลยค่ะ คนไทยส่วนมากก็อาจจะไม่รู้จักด้วยซ้ำ (ตอนแรกก็ไม่รู้จักค่ะ แต่ไปหา requirements มหาลัยอ่าน เป็นมหาลัยแห่งหนึ่งในแคนาดาค่ะ แล้วก็เห็นไอ้เจ้าตัวเทสต์นี้บ่อยมากในส่วนของ English Proficiency หรือ Language Requirements ของมหาลัยอย่างอเมริกาหรือแคนาดา เราเลยลองคิดว่า เออ ลองสอบเล่นๆดูดีกว่าว่าจะเป็นยังไงบ้าง)
เลยลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ official จาก DET เอาเองเลย สรุปความทั้งหมดออกมาได้ว่า...
1. ใช้เวลาสอบเพียง 25-45 นาที ไม่เกิน 1 ชั่วโมง และสะดวกในการสอบ เพราะสามารถสอบได้เองที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ที่ต้องการ ***แต่เราขอเน้นย้ำตรงนี้เลยนะคะ ว่าถ้าจะสอบอันนี้คุณควรมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองค่ะ เพราะเราสอบเองแล้วเรากล้ายืนยัน 100% ว่าเราทำด้วยตัวเอง มาจากความสามารถของตัวเองค่ะ อย่าทำตัวไม่ดี ไม่ซื่อสัตย์ต่อตนเอง เพราะคุณกำลังจะทำให้คนอื่นที่เขาตั้งใจจริงเขาซวยไปด้วยค่ะ ถึงคุณโกงไป มันไม่ได้มาจากความสามารถของคุณเองยังไงมหาลัยเขาก็รู้ค่ะ เขาก็รู้ตอนได้ interview คุณนั่นแหละค่ะ***
2. ราคาค่าสอบไม่แพง เพียงแค่ 49 USD เท่านั้น (เรทวันที่เราโดนตัดจากบัตรเครดิตไปคือ 1,586 บาทเท่านั้นเองค่ะ)
3. รอผลสอบวัดระดับออกภายในระยะเวลาแค่ 2 วัน หรือ 48 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ (เรามาสะดุดและถูกใจตรงข้อนี้ค่ะ)
นอกจากนี้.. หลังจากได้ผลสอบแล้วก็ยังสามารถส่งให้ทางมหาลัยได้โดยตรงค่ะ (มหาลัยจะเห็นคะแนนของคุณ, ตัวอย่างการเขียน writing, วิดีโอที่สอบพูด และข้อมูลส่วนตัวของเรา คือ ชื่อ, นามสกุล, วันเกิด, อีเมล์และรูปภาพที่เราถ่ายก่อนทำการสอบ)
ส่วนอันนี้เป็นวิธีการติดตั้งเพื่อใช้สำหรับการสอบค่ะ แต่!!! เบราเซอร์ที่ทาง DET supported เนี่ย.. มีแค่ 2 ตัวเลือกเท่านั้นค่ะ .. คือ Google Chrome กับ Opera ค่ะ สำหรับตัวมี่เอง มี่ใช้ MacBook Air และคุ้นชินกับการใช้ Safari มากกว่า แถม Chrome บนเครื่องเนี่ยก็เก่ามาก ขนาดที่อัพเดทแล้วยังใช้ไม่ได้เลยค่ะ 5555 เลยต้องเอา Chrome เก่าใส่ไปในถังขยะแล้วโหลดมาใหม่เองจาก ค่ะ พอโหลดมาแล้วเข้าหน้าเว็บ DET อีกรอบมันก็จะขึ้นว่าเบราเซอร์ได้รับการสนับสนุนแล้ว จากนั้นก็สร้าง Account ได้เลยค่ะ
- การติดตั้งจะใช้เวลาประมาณ 10 นาที (แต่ถ้าเน็ตดีก็จะเร็วกว่านั้นนะคะ ของมี่ที่โหลดมาก็ไม่ได้นานค่ะ แค่ 5 นาทีเท่านั้นเอง) สำหรับส่วนนี้ก่อนจะเข้าสอบ จะมีการบอกกฎการสอบต่างๆค่ะ เดี๋ยวจะพูดถึงในด้านล่าง เพราะต้องมีคนสงสัยแน่ๆค่ะ ว่าแบบนี้เราก็ทุจริตได้น่ะสิ แต่เทคโนโลยีไปไกลกว่านั้นแล้วค่ะ อิอิ
- ข้อสอบจะปรับเปลี่ยนตามความยากง่ายตามที่เราทำได้นะคะ ดังนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ
- ในส่วนของการสอบพูด จะมีคำถามมาให้อ่านและจะอัดวิดีโอตอนเราพูดค่ะ โดยก่อนสอบจริงจะมีข้อสอบ example มาให้ลองก่อนค่ะ คำถามจะออกแนวคำถามปลายเปิดมากกว่า จะเป็นการสอบพาร์ทสุดท้ายค่ะ
สิ่งที่ต้องใช้ในการสอบ Duolingo English Test :
1. พาสปอร์ตหรือบัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาลหรือใบขับขี่ (แนะนำว่าให้ใช้พาสปอร์ตดีที่สุดค่ะ เพราะว่าเป็นอะไรที่ดู international ที่สุดแล้ว เอาบัตรประชาชนไปคงไม่ดีเท่าไหร่ เพราะมันมีพาร์ทที่อ่านไม่ออกมากกว่าอ่านออกค่ะ อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะคะ)
2. ห้องที่สว่างและเงียบสงบ หรือถ้าสอบตอนกลางคืนก็เปิดไฟให้สว่างที่สุดค่ะ
3. เวลาประมาณ 45 นาที ใช้เวลายามว่างก็ได้ค่ะ
4. อินเตอร์เน็ตที่เสถียรที่สุด
5. คอมพิวเตอร์
สิ่งที่คอมพิวเตอร์ของคุณต้องมีในการสอบ Duolingo English Test :
1. เบราเซอร์ที่ซัพพอร์ต DET อย่าง Google Chrome หรือ Opera ตามที่กล่าวไปข้างต้น
2. กล้องบนคอมพิวเตอร์หรือ Laptop เพื่ออัดวิดีโอหน้าตัวเองตอนสอบ
3. ไมโครโฟนบนคอมพิวเตอร์
4. ลำโพง ห้ามเสียบหูฟังตอนสอบนะจ๊ะ
สามารถอ่านกฎในการสอบเพิ่มเติมได้ที่นี่
- ต้องแน่ใจว่า.. อยู่คนเดียวในการสอบแน่นอน 100%
- ต้องแน่ใจว่า.. ไม่ได้มีอะไรปิดหูทั้งสิ้น ห้ามทั้งหมวกหรืออื่นๆ แม้แต่ปล่อยให้ผมปิดหูก็ไม่ได้ ควรมัดผมหรือเอาผมเหน็บหู
- ห้ามเอาอะไรมาปิดหน้าเด็ดขาด เช่น แว่นกันแดด ผ้าปิดปาก ต้องทำหน้าให้เห็นได้ชัดเจนตลอดเวลาการสอบ
- ห้ามใส่หูฟังหรือเฮดโฟนใดๆทั้งสิ้นนะจ๊ะ
- ห้ามใช้อุปกรณ์อื่นๆนอกจากคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น ห้ามใช้โทรศัพท์, สมุดโน้ตต่างๆ หรือ Textbook ก็ไม่ได้
- ห้ามพูดคุยกับใครๆทั้งสิ้นขณะสอบ (แม้แต่มีคนเข้ามาในห้องแล้วคุยด้วยก็ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นทาง Duolingo มีสิทธิ์แบนคุณออกจากการสอบโดยถาวรและผลสอบจะไม่ออกมา และถือว่าการสอบเป็นโมฆะ)
- ห้ามใช้กระดาษหรืออุปกรณ์การเขียนโดยเด็ดขาด
- ห้ามหันหน้าไปทางอื่นนอกจากคอมพิวเตอร์ของตัวเอง ต้องจดจ่ออยู่กับหน้าคอมเท่านั้น!!
**ที่สำคัญคือ เราขอร้องว่าอย่าทุจริตในการสอบเด็ดขาด**
(สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)
รีวิวการสอบ Duolingo English Test โดยมี่
พูดถึงก่อนจะสอบจริง
- ในตอนแรกก่อนสอบ.. จะต้องมีการถ่ายรูปตัวเองเพื่อเอาไว้ใช้บนใบประกาศนียบัตรหรือผลสอบ ซึ่งหากเราไม่พอใจก็จะสามารถ retake ได้เรื่อยๆจนกว่าจะพอใจ คือเวลาถ่ายรูปก็คือรูปจากกล้องคอมพิวเตอร์เราเนี่ยแหละจ้า ต้องกรอกชื่อจริง, นามสกุล, วันเกิด, First Language และเอกสารที่ใช้ยืนยันตัวตน หลังจากนั้นก็จะต้องเตรียมพาสปอร์ตมาเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ซึ่งก็ถ่ายจากกล้องของคอมพิวเตอร์อีกเช่นกัน ต้องถ่ายให้ชัดเพื่อที่ผู้ตรวจจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเรา
- หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จ ก็จะมีการเช็คทุกอย่าง ทั้งให้ติ๊กว่าได้ใส่หูฟังหรือเฮดโฟนอยู่หรือไม่ และจะมีการเขียนเตือนไว้แล้วว่า "หากใส่หูฟังหรือเฮดโฟนอยู่ ผลสอบของคุณจะไม่ได้รับการ Certified" เช็คลำโพง (ให้คลิกที่สัญลักษณ์ลำโพงและฟังว่ามันดังพอมั้ย), เช็คไมโครโฟน (โดยการให้กดสัญลักษณ์ไมโครโฟนเพื่ออัดเสียงตัวเองและก็ฟัง), เช็คกล้อง (ให้เราทำอะไรก็ได้และสังเกตว่ากล้องมันชัดมั้ย เราจะเห็นตัวเองจากมุมขวาของเว็บการสอบ) คือเขาวางระบบมาดีพอสมควรเลยอ่ะ
หลายคนที่สงสัยว่าแล้วจะรู้ได้ไงว่าไม่ได้โกง ?
คำตอบคือ : ระหว่างการสอบกล้องของคอมพิวเตอร์เราจะอัดวิดีโอกิริยาท่าทางของหน้าเราไว้ตลอด เราจะเห็นหน้าตัวเองที่มุมขวาของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราก็ห้ามมองไปทางอื่นนอกจากคอม คือระหว่างการพิมพ์แป้นพิมพ์คอมอ่ะ อันนี้ไม่เป็นไร แต่ถ้ามองไปต่ำกว่านั้นมีสิทธิ์โดนแบนถาวรและเสียเงินให้การสอบฟรี เพราะผลสอบของคุณจะไม่ได้รับการ certified จ้า คืออย่าคิดจะทำอะไรที่ไม่ซื่อสัตย์เลย ยังไงเขาก็จับได้นะ ตอนมหาลัยสัมภาษณ์คุณเขาก็ดูออกอยู่ดีว่ามีคนช่วยทำให้ ไหนจะพวก Essays ที่ต้องส่งไปอีก ถ้าภาษาอังกฤษไม่ได้ดีขนาดนั้นก็ยอมเสียเวลาเรียนภาษาปรับพื้นฐานที่มหาลัยก่อนเข้าเรียนก็ไม่เสียหายนะ แถมได้ความรู้ไปเต็มๆด้วย
ตอนระหว่างสอบจริง
ระหว่างการสอบเนี่ย ตัวข้อสอบจะสลับกันมาเรื่อยๆ จะไม่ได้ฟิกซ์ว่าต้องเป็นพาร์ทอ่านก่อน แล้วค่อยพาร์ทเขียน จากนั้นค่อยพาร์ทอธิบาย แต่ที่ฟิกซ์แน่ๆคือพาร์ทการพูดที่ต้องอัดวิดีโอพูดซึ่งจะเป็นตอนสุดท้าย
- พาร์ทการฟัง จะมี 2 แบบนะจ๊ะ :
1. การฟังที่เป็นมี audio มาอันนึงสั้นๆไม่ยาวมาก เอ้ย เราว่าก็ยาวอยู่แต่ไม่ใช่ passage อ่ะ แต่แอบยาก คือเราจะต้องฟังและพิมพ์ตามให้ทันว่าเขาพูดอะไร และ audio แต่ละครั้งจะเล่นได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้นและสปีดคือสปีดฝรั่งพูดที่ค่อนข้างเร็ว ครั้งแรกให้ฟังจับประเด็นไปก่อนว่าเขาพูดอะไร ครั้งที่ 2 ให้เช็คว่าตกหล่นอะไรบ้าง ครั้งที่ 3 ให้ตรวจสอบความถูกต้อง โดยแต่ละครั้งของการที่ข้อสอบฟังมา คุณจะมีเวลาทั้งหมดแค่ 60 วินาทีต่อข้อเท่านั้น ปัญหาใหญ่ๆที่เราเจอคือเราพิมพ์ตามไม่ทัน ที่เราเจอไปทั้งหมดก็ประมาณ 10 กว่าข้อ แนะนำให้ตั้งสติดีๆก่อนจะเล่น audio แต่ละครั้ง
2. การฟังที่ต้องฟังว่า Speaker นี้พูดมาใช่ภาษาอังกฤษแบบจริงๆมั้ย อันนี้จะมีมาเรื่อยๆ เราจะเล่นกี่ครั้งก็ได้ แต่มีเวลาแค่ประมาณ 2 นาทีกว่าๆต่อข้อ เราต้องฟังและเลือกว่าคำศัพท์ไหนเป็น Real English Words แต่ละข้อจะมี 9 หรือ 12 Speakers ก็ได้ ต้องฟังแล้วติ๊กว่าใช่หรือไม่ใช่
- พาร์ทการอ่าน : มันไม่เชิงพาร์ทอ่านอ่ะ มันออกแนวให้ดูมากกว่าว่าคำศัพท์ตัวไหนเป็น Real English Words คือมันจะมีทั้งที่จริงแล้วก็คำศัพท์ที่เหมือนเขาออกมามั่วๆอ่ะ ระวังโดนหลอกนะจ๊ะ แล้วก็จะมีอีกแบบคือมีประโยคมาให้อ่าน แล้วเราก็ต้องอ่านแบบออกเสียง + กดบันทึกเสียงไปด้วยค่ะ
- พาร์ทการเขียน : คำถามออกแนวคำถามปลายเปิดมากกว่า เราว่าแต่ละครั้งคำถามมาคงไม่เหมือนกันอะค่ะ ของมี่เจอเกี่ยวกับสิ่งของที่ทำด้วยมือหรือเครื่องจักร โดยเขาจะถามว่าชอบแบบไหนมากกว่าและทำไม? บังคับขั้นต่ำ 50-100 words โดยจะมีการนับคำให้ว่ากี่ words แล้ว ถ้าถึง 50 เมื่อไหร่กด next ได้ทันที มีเวลา 5 นาที และอีกอันนึงก็คือให้อธิบายสถานการณ์จากรูปภาพที่กำหนดให้ เราเจอไปทั้งหมด 3 รูปภาพ เขาจะให้เขียนอธิบายมา 1-2 sentence(s)
- พาร์ทการพูด : จะเป็นการสอบพาร์ทสุดท้ายเลย ก่อนสอบจริงจะให้ลอง example ก่อน ว่าแบบกล้องใช้ได้มั้ย อัดเสียงได้มั้ย มันชัดมั้ย จากนั้นก็จะไปต่อที่คำถามจริง คำถามที่เราโดนก็คือ อันแรกเลยอ่ะเกี่ยวกับ...ว่าแบบอันนี้มันสำคัญยังไง หัวข้อนี้เราถนัด เราเลยตอบได้ (คำถามข้อนี้มาจากการให้อ่านและก็จะมีหัวข้อย่อยๆลงไปอีก), อันที่ 2 จะมีรูปภาพมาให้อธิบายว่าเห็นอะไรในรูปภาพบ้างและสุดท้ายจะเป็นคำถามที่ต้องเปิดฟังและเปิดฟังได้แค่ 2 รอบเท่านั้นซึ่งเราไม่เข้าใจคำสุดท้ายเพราะมันฟังยากมาก เราก็เลยบอกไปตรงๆว่าเราฟังคำสุดท้ายไม่ออกแต่เราก็พยายามพูด main idea หลักๆที่เขาถาม แต่ละข้อเราจะต้องพูดในเวลา 90 วินาที หรือ 1.30 นาทีต่อคำถาม
หลังจากสอบเสร็จ
หลังจากสอบเสร็จ เขาก็จะมีถามเรื่อง feedback ว่าแบบข้อสอบยากมั้ย (มีตัวเลือก 3 อย่างคือ hard, just right และก็ชิวๆ), จะเอาผลสอบไปยื่นที่มหาลัยไหนบ้าง, คอมเมนท์เกี่ยวกับตัวข้อสอบเอง เสร็จปุ๊ปก็จะมีการขึ้นว่ารอผลสอบภายใน 48 ชั่วโมงและจะมีเมล์เข้าไปแจ้งเรื่องเงินที่จ่ายไป
ใบเสร็จจะมีชื่อเราและเลขที่ใบเสร็จ แต่เราเซนเซอร์ไว้น้าาาา
ก็รอไปนะคะ ใช้เวลาแค่ 48 ชั่วโมงเท่านั้นเอง
สำหรับข้อมูลอื่นๆเพิ่มเติมของการสอบ DET (FAQ): ที่นี่
สำหรับคำอธิบายเรื่องคะแนนหรือการเทียบคะแนน: ที่นี่
สำหรับพันธมิตรของ DET: ที่นี่
ในส่วนของผลสอบของตัวมี่เองนะคะ คือเราเริ่มสอบตอน 23.07 น. ของวันที่ 22/09/18 นะคะ แล้วสอบเสร็จตอน 00.10 น. โดยประมาณค่ะ แล้วเราได้รับผลสอบตอน 22.54 น. ของวันที่ 23/09/18 ค่ะ ผลออกมาปรากฎว่า.. เราได้ 63 คะแนนจาก 100 คะแนนค่ะ
ผลสอบจะอยู่ด้านล่างของเว็บไซต์นะคะ
กรอบสีส้มๆอันแรกคือรูปของเราที่ถ่ายไว้ก่อนสอบ และอันที่ 2 ก็คือชื่อและนามสกุลเราค่ะ
เป็นการเปรียบเทียบคะแนนคร่าวๆนะคะ
หลังจากที่เราได้ผลสอบไปแล้ว เรายังสามารถเลือก send results ไปให้มหาลัยที่เราจะ apply ได้โดยตรงเลยค่ะ แต่เรายังไม่ส่งค่ะ เพราะเราจะสมัครปีหน้าอะค่ะ
Update คะแนนผลสอบของ Old Version to New Version 🤓
คะแนนของมี่จะเป็นแบบ prior ค่ะ คือสเกลตอนสอบนั้นเต็ม 100 คะแนนแต่ว่ามี่ได้ 63 คะแนนและเมื่อเทียบกับ current version จะเป็น 115 คะแนนจาก 160 คะแนนค่ะ
ตารางคะแนนเทียบจะประมาณนี้ค่า ยังไงก็ลองดูแล้วกันนะทุกคน ✌🏻 สำหรับน้อง ๆ ที่จะยื่นเข้า MUIC ถ้ากลับมาอ่านบล็อคเราจะได้ไม่เข้าใจผิด 55555
งั้นมี่ขอจบการเขียนรีวิวไว้เพียงแค่นี้นะคะ ไว้เจอกันใหม่นะคะ ❤️
มีคำถามใดๆส่งไปที่ FB Page: Askmiemasi ได้เลยค่ะ ฝากกดไลก์เพจ กดแชร์บล็อคหรือโพสต์ที่ชอบด้วยนะคะ ตอนนี้มีทวิตเตอร์ด้วย Twitter: @askmimimi ค่ะ และ IG: Askmiemasi_th (private) ต้องขอฟอลมาก่อนนะคะ
ปล. ตอบคำถามทางเพจและทุก Social Media เฉพาะวันจันทร์-พุธ 10.00-19.00 นะคะ จะไม่ได้กลับมาตอบทุกวันแล้วนะคะ มีคำถามอะไร list ส่งมาถามเยอะ ๆ แล้วจะตอบทีเดียวค่ะ จะได้เป็นการประหยัดเวลาไปทั้งสองฝ่ายด้วยค่ะ ถามแล้วรบกวนรอนิดนึงนะคะ ไม่เกิน 1 ชม. - 1 หรือ 2 วันจะตอบกลับค่ะ พอดีเรียนมหาลัยก็ยุ่ง ๆ ค่ะ ไม่ได้นั่งว่างตลอดค่า 😇
Comments